วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

มาเตรียมตัวต้อนรับการเปิดภาดเรียนที่ 2 กันเถอะ

อย่างแรกเราต้องเตรียมตัวตั้งแต่ 3-4 วันก่อนจะเปิดเทอมน่ะครับต่อไปที่ต้องเตรียมคือ สุขภาพ ของเราต้อง
พร้อมลุยห้องเรียนอันแสนเคร่งเครียดของเราก่อน โดยการออกกำลังกายวันล่ะ 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงก็ได้ครับ แต่ว่าอย่าหักโหมมากเกินไปน่ะเพราะมันจะทำให้ร่างกายเรานั้นเพลียและเกิดอาการบาดดเจ็บจากการเล่นกีฬาได้ง่ายๆน่ะ

2. การนอนหลับตั้งแต่หัวค้ำและตื่นนอนเช้าๆ อันนี้ขอแนะนำให้ทำก่อนวันเปิดเรียน 4 วันน่ะ เพราะว่าช่วงเวลา 4 วันเนี่ยมันจะทำให้เราเกิดกระบวนการการตั้งนาฬิกาชีวะในร่างกายเรา ถ้าเกิดถึงเวลาที่เรานอนนั้นร่างกายก็จะเริ่มนอน ถ้าร่างกายเรานั้นพักผ่อนอย่างเต็มที่เราก็จะตื่นโดยอัตโตโนมัติอย่างสดชื่นอ่ะ

3. การกินอาหารเป็นเวลา ทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ และควรลดอาหารที่มีปริมาณไขมันมากๆเพราะว่าอาจจะทำให้ร่างกายเรานั้นเกิดการสะสมของแคลเลสเตอรอลไปขัดขว้างในการไหลเวียนโลหิตของร่างกายของเรา

4. อ่านหนังสือและเนื้อหาที่เราจะเรียนในเทอม 2 นี้ว่าเราต้องเรียนอะไรเพราะเรานั้นจะได้รู้ว่าเนื้อหานี้เป็นอย่างไรและควรจะปรับความเข้าใจของวิชานี้อย่างไรอาจจะทำให้เรานั้น เรียนทันเพื่อนได้ง่ายๆ และสามารถทำเกรดเทอม 2 ได้ง่ายๆ

5. ทำสมองและจิตใจของเราว่างเข้าไว้ และฝึกสมาธิเราให้มั่นคง มันจะทำให้เราตั้งมือรับกับสถาณะการณ์ที่จะเกิดให้อนาคตได้

6. เครื่องเขียน หนังสือ สมุด กระเป๋า และชุดนักเรียน ลองดูว่าอะไรที่เราขาดเหลือบ้าง ถ้าขาดก็ไปหาซื้อหรือว่า ซ้อมแซมพอใช้ได้

7. ความมั่นใจ และความสดใสที่เราจะไปเผชิญหน้ากับเทอม2 หรือยัง ถ้ามีเราก็พกมันไว้เต็มประดา แต่ถ้าไม่มีเราก็เสริมสร้างมันซะ

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สำหรับผิวหน้าในหน้าหนาว....จะทำอย่างไรดี

ผิวเมื่อหน้าหนาว เมื่อลมหนาวโชยมา ทำให้อุณหภูมิของอากาศลดลง ผิวกายของคุณเริ่มแห้ง ขาดความมันที่ผิว ดังนั้น เมื่อผิวหนังแห้ง เมื่อล้างสิ่งสกปรกออกจากผิว ซึ่งจะล้าง เอาโซเดียมพีซีเอออกไปด้วย ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า เช่น เจลล้างหน้าที่ผสมโซเดียมพีซีเอ ทดแทนกลับมาคืนทำไมเราถึงเรียกว่า ผิวแห้ง เพียงแค่มองดูว่า ผิวมีสะเก็ดขุยบางๆ ซึ่งความจริงอาจเป็นเพียงชั้นขี้ไคลหนาขึ้นเท่านั้น เมื่อมีสะเก็ดหนาขึ้น การลอกบางทีหลุดเป็นแผ่นใหญ่ ในคนสูงอายุ ความชุ่มชื้นของผิวพรรณ กรดอะมิโน ไขมัน และการผลิตไขมันลดลง แต่ปริมาณน้ำในผิวกลับปกติ การสูญเสียน้ำผ่านผิวหนังของคนสูงอายุ กลับน้อยลง อาจเป็นเพราะว่า ผิวของพวกเขาไวต่ออิทธิพล ของสิ่งแวดล้อมรอบตัว จึงเกิดผื่นคันได้ง่าย น้ำนวลธรรมชาติในคนสูงอายุจะลดลง เนื่องจากมีไขมันลดลง มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพของผิวพรรณ การอาบน้ำบ่อย ๆ ทำให้ผิวแห้ง ได้ด้วยเช่นกัน เมื่ออากาศเย็น ลดพัดแรง ทำให้น้ำระเหยจากผิวมากขึ้น ยิ่งทำให้อาการกำเริบ ลักษณะของผิวแห้งเริ่มตั้งแต่ มีผิวแดง สะเก็ดลอก รอยแกะเกา รอยลายนิ้วมือชัดเจน ผิวหยาบและไม่เรียบ เมื่อเป็นมากผิวจะแตกเป็นร่องและเป็นทาง การถนอมผิวพรรณใช้สารที่เพิ่มความชุ่มชื้นที่ดีมีหลายตัวเช่น
กลีเซอร์รีน ยูเรีย เหมาะกับทาตัว แขนขา โซเดียมพีซีเอ ซึ่งเป็นองค์ประกอบของน้ำนวลธรรมชาติ สังเคราะห์ได้และใช้แทนของธรรมชาติ หากลดลง ปิโตรลาตัม ของเก่าใช้ได้ดี แต่เหนียวเหนอะหนะ สมุนไพร เช่น ว่านหางจระเข้ ดังนั้นครีมบำรุงผิวที่ดี จะมีส่วนประกอบของสารดังข้างบน ขึ้นอยู่ว่าจะใช้ทากรณีใด และ ต้องมาทดสอบว่า ใช้แล้วสิวขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะคนสูงอายุหรืออยู่ในเขตหนาวจัดผู้ผลิตอาจผลิตครีมบำรุงผสมไขมันชนิดสำหรับผิวแห้งมาก ในกรณีที่เป็นผื่นตามตัว ถ้าใช้สารป้องกันและบำรุงแล้ว ผื่นไม่ดีขึ้น จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ โดยใช้ยาสเตอร์รอยด์ทา สำหรับบางคน ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้าแตกมาก เคยใช้มาสารพัดอย่าง ไปตระเวนพบแพทย์ผิวหนังหลายสิบคนก็ยังไม่หาย ความจริง คุณต้องไม่ทำอย่างนั้น แทนที่จะเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนยาไม่ดีกว่า หรือเพราะแพทย์ที่เคยให้ยาแล้วจะทราบว่าชนิดนี้ไม่ดีสำหรับคุณ ต้องใช้อย่างแรง ถ้าเปลี่ยนแพทย์ใหม่ แพทย์คนใหม่ไม่ทราบว่าใช้ยาอะไร จึงจะพอดีกับการรักษาผื่น ครั้นจะใช้ยาแรงตั้งแต่ทีแรก ก็ดูกระไรอยู่ เป็นต้น หลังจากผื่นหายแล้ว จำเป็นต้องใช้ครีมบำรุงป้องกันอีก บางคนใช้ชนิดธรรมดา แต่บางคนต้องใช้ชนิดที่เรียกว่า protective cream คือ ป้องกันได้จริง ไม่ใช่ป้องกันแต่ชื่อ ซึ่งมีส่วนผสมของสารกลุ่มซิลิโคน แล้วท่านจะปราศจากโรคแพ้ผื่นคัน จากความหนาว

" มาต้อนรับหน้าหนาวที่จะมาถึง..กัน "

คงจะเริ่มสัมผัสอากาศเย็นๆแห้งๆกันบ้างแล้วนะค่ะ แต่ละคนจะมีประสบการณ์กับฤดุหนาวที่แตกต่างกัน บางคนก็ชอบ เพราะรู้สึกสดชื่น เย็นสบาย แห้ง ไม่เหนอะหนะ แต่บางคนกลับไม่ชอบ บางครั้งกลัวหน้าหนาวไปเลยก็มี เพราะปัญหาบางอย่างมักที่เกิดตอนหน้าหนาว ยกตัวอย่าง เช่น พออากาศเริ่มเปลี่ยน โรคภูมิแพ้จะกำเริบ ตาและจมูก จะคันแห้งบวม จาม น้ำมูกไหล บางครั้งถึงกับเป็นไซนัสอักเสบ สาเหตุก็เนื่องมาจาก ภูมิแพ้ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรม และมีตัวกระตุ้น คืออากาศที่เปลี่ยนแปลง ความแห้ง ฝุ่น ละอองเกสร แม้แต่ความเครียด หรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ แต่พอเลยหน้าหนาว ตัวกระตุ้นหมดไป อาการเหล่านี้ก็ดีขึ้น โรคบางอย่างก็มักจะมาช่วงหน้าหนาว เช่น โรคติดต่อทางเดินหายใจ ไข้หวัด หัด สุกใส เป็นการระบาดของเชื้อไวรัสที่ติดต่อกันทางลมหายใจ



ดังนั้นเราควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนที่เพียงพอ เน้นรับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้ ซึ่งมีวิตามินและเกลือแร่ เพื่อเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมรับมือกับหน้าหนาว นอกจากนี้โรคผิวหนังบางชนิดก็จะกำเริบในช่วงที่อากาศหนาว อากาศแห้ง เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง ผิวจะแห้งมาก คัน เกาจนถลอกติดเชื้อ บางคนผิวแห้งแตกลายเป็นเกล็ดงูเกล็ดปลา โรคสะเก็ดเงิน หรือ เรื้อนกวาง ก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่มักจะกำเริบในช่วงหน้าหนาว แต่ไม่ต้องตกใจนะครับ เพียงแค่เราต้องบำรุงรักษา ผิวหนังอย่าให้แห้งโดยเด็ดขาด อย่าอาบน้ำร้อน หมั่นทาโลชั่น หรือน้ำมันหลังอาบน้ำ จะเป็นการทดแทนหรือเคลือบน้ำไว้กับผิวหนัง และใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิด เพื่อลดการระเหยของน้ำจากผิวสู่บรรยากาศ
ที่สำคัญนะค่ะ ต้องทำตัวเองให้สดชื่น ขจัดความขี้เกียจ ทำสมองให้แจ่มใส โดยการทานอาหารเช้าทุกวัน ครบหมวดหมู่ ทานอาหารที่ให้พลังงาน มีประโยชน์ต่อสมอง เช่น โอเมกา 3 จากปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน และ ทูนา และ โอเมกา 6 จากน้ำมันงา น้ำมันจากเมล็ดดอกทานตะวัน หลีกเลี่ยงอาหารหวาน หรือที่มีน้ำตาลมาก เลี่ยง ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่เป็น แอลกอออล์ และน้ำอัดลม ไม่สูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีควันบุหรี่ หรือ มลพิษ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าทำตามนี้ได้ ผมเชื่อว่า ทุกท่าน จะไม่กลัวฤดูหนาว และจะเปลี่ยนใจมาชอบหน้าหนาวมากขึ้นด้วยค่ะ