วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Graffiti



รอยขูดขีดเขียน เป็นภาพวาดที่เกิดจากการขีดเขียนไปบนผนัง คำ "graffiti" เป็นคำศัพท์ที่มาจากภาษากรีก grafito ซึ่งแปลว่าการเขียนภาพลงบนผนังหรือกำแพงในสมัยโบราณ โดยที่รู้จักกันทั่วไปจะมีลักษณะของการพ่น (bombing) เซ็นชื่อ หรือเป็นการเซ็นลายเซ็น โดยเริ่มต้นจากเมืองฟิลาเดลเฟียในมลรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา จากนั้นจึงแพร่หลายในนิวยอร์กช่วงยุคคริสต์ทศวรรษที่ 60

ความหมาย
จากหนังสือ Freight Train Graffitti ให้คำนิยามรอยขูดขีดเขียนว่า "รอยขูดขีดเขียนถือเป็นวัฒนธรรมนอกกระแสที่เปรียบได้กับสัญลักษณ์ของความเป็น ขบถ ราวกับว่ามันก่อให้เกิดความรู้สึกซาบซ่าน เป็นสุข เมื่อยามที่ศิลปินรอยขูดขีดเขียนได้ท้าทายต่ออำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามกีดกันกำจัดรอยขูดขีดเขียนให้หมดไป"
ขณะที่ นิโคลัส แกนซ์ ผู้เขียน Graffiti World อธิบายไว้ว่า คำว่า graffitti ที่มาจาก graffitto ในภาษาอิตาลี ที่แปลว่า รอยจารึก หรือ รอยขีดข่วน อาจกล่าวได้ว่ารอยขูดขีดเขียนถือกำเนิดขึ้นบนโลกมานานแล้ว พร้อมๆ กับกำเนิดของอารยธรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอักษรฮีโรกลิฟฟิก ภาพเขียนสีตามผนังถ้ำ ก็อาจถือว่าเป็นรอยขูดขีดเขียนได้เช่นกัน

ประเภทของกราฟฟิตี้

"Tag" คือการเซ็นลายเซ็นหรือนามแฝงของแต่ละคนโดยสเปรย์กระป๋อง หรือ ปากกา ส่วนมากใช้สีเดียว บางคนอาจพ่นเป็นตัวอักษรธรรมดา ขณะที่บางคนดีไซน์ให้เป็นตัวอักษรที่เกาะเกี่ยวกันจนอ่านไม่ออก เน้นให้ดูแปลกและสะดุดตา
"Throw-ups" คือการเขียนเร็ว ๆ ด้วยสีพื้นฐาน จำนวนน้อยสีนิยมใช้สีขาวดำ แสดงให้เห็นเส้นสายที่รวดเร็ว เป็นการเขียนตัวอักษรน้อยตัว มีเส้นตัดขอบเพื่อให้ดูมีมิติ ไม่เน้นความสวยงาม เพราะต้องทำแข่งกับเวลา
"Fill-in" หรือ "Piece" คือ "Throw-ups" ที่ซับซ้อนขึ้น เป็นผลงานของไรเตอร์คนเดียว เป็นการพ่นสีสเปรย์ให้เป็นภาพหรือตัวอักษรที่สวยงาม ใช้เวลานานในการสร้างสรรค์ เพื่อให้ผลงานออกมาสมบูรณ์
"Block" หรือ "Bubble" การเขียน Tag ที่ดูมีมิติมากขึ้น ใช้สีประมาณ 3 สี หรือมากกว่านั้น
"Wildstyle" หรือ "Wickedstyle" เป็นสไตล์ที่ซับซ้อนขึ้น มีการเกาะเกี่ยวกันของตัวหนังสือ ลักษณะการเขียนประเภทนี้จะอ่านค่อนข้างยาก เพื่อแสดงความเหนือชั้นของการดีไซน์
"Blockbuster" คือ "Fill-in" ที่เขียนที่ตั้งใจเขียนทั้งผนัง
"Character" คือการพ่นเป็นรูปคน หรือ คาแร็กเตอร์ต่าง ๆ ไม่วาจะเป็นตัวการ์ตูน หรือเป็นภาพเสมือนจริงของดารา-นักร้องในดวงใจ หรืออาจเป็นตัวการ์ตูนที่ไรเตอร์ออกแบบเองเพื่อเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของไรเตอร์คนนั้น ๆ
"Production" คือ การรวมรอยขูดขีดเขียนทุกรูปแบบไว้ด้วยกัน เกิดจากการรวมที่ไรเตอร์หลายคนหรือหลายกลุ่มนัดกันสร้างผลงานร่วมกัน โดยมีธีมไปในทิศทางเดียวกันหรือสอดคล้องกัน เช่น นัดกันพ่นคาแร็กเตอร์ประจำตัวของไรเตอร์แต่ละคนหรือพ่นชื่อกลุ่ม ชื่อตัวเอง หรือเปล่าไรเตอร์อาจร่วมกันกำหนดวาระต่าง ๆ ขึ้นเอง

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วัดพระบาทน้ำพุ



วัดพระบาทน้ำพุ หรือวัดพระพุทธบาทประทานพร เป็นวัดไทยตั้งอยู่เชิงเขาน้ำพุ หมู่ที่ 3 ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี มีพระอาทรประชานาถ (พระอลงกต ติกฺขปญฺโญ) เป็นเจ้าอาวาส วัดแห่งนี้รู้จักกันดีว่ามีรอยพระพุทธบาท เป็นสถานรักษาพักฟื้นผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโรคเอดส์ และเป็นที่ตั้งของมูลนิธิธรรมรักษ์

ข้อมูลวัด
วัดพระบาทน้ำพุมีสิ่งสำคัญในวัดได้แก่ รอยพระพุทธบาทถูกครอบอยู่ภายใต้มณฑปโดยอยู่ห่างจากอาคารสำนักงานมูลนิธิธรรมรักษ์ประมาณ 150 เมตร โครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ที่ฟักฟื้นและรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์ระยะสุดท้ายที่อาจจะกล่าวได้ว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอุโบสถมีพระประธานขนาดพระเพลากว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร พร้อมด้วยพระอัครสาวก นอกจากนี้ในถ้ำบนเขาที่อยู่ในวัดภายในมีหลวงพ่อดำ ปางมารวิชัยสมัยอยุธยา และพระโพธิสัตว์ 9 องค์ส่วนบนยอดภูเขาพระอุทัย อโนโม สร้างหลวงพ่อขาวขึ้นเมื่อพ.ศ. 2523

บทบาทในฐานะสถานพยาบาลผู้ป่วยโรคเอดส์
วัดแห่งนี้เริ่มต้นรับรักษาและฟักฟื้นผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโรคเอดส์ครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2535 และดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผู้ริเริ่มโครงการคือเจ้าอาวาส พระอาทรประชานาถ การดำเนินการเกี่ยวกับโรคเอดส์มีสองส่วน ส่วนแรกคือรับดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยโรคเอดส์ทั่วไปจากทั่วประเทศ ส่วนที่สองคือการรับอุปการะเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบโรคเอดส์จากบิดามารดา ทั้งสองส่วนอยู่ในการดูแลของวัดประมาณ 2,000 คน แบ่งเป็นเด็กประมาณ 1,300 คน ในแต่ละเดือนวัดจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าอาหาร ยารักษาโรค ค่าบริหารจัดการภายในวัด และค่าเผาศพ ปัจจุบันได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลไทยเดือนละ 100,000 บาท ส่วนที่เหลือเป็นการรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ส่วนยาต้านไวรัสเอดส์และอาสาสมัครได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศ

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โยคะร้อน :)



โยคะร้อน ก็คือโยคะที่ฝึกในห้องที่ติดฮีทเตอร์ให้ร้อน อุณหภูมิประมาณ 37 องศา มีต้นกำเนิดที่อเมริกา เพราะเมืองนอกอากาศหนาว และฝรั่งตัวแข็ง ความร้อนจะช่วยให้ยืดหยุ่นได้มากขึ้น

โยคะร้อนก็เหมือนฝึกโยคะพร้อมๆ กับซาวน่า บางคนจะชอบเพราะจะได้เหงื่อเยอะ รู้สึกเหมือนได้ออกกำลังกาย บางคนเชื่อว่าจะเผาผลาญมากแต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการเผาผลาญ กับเหงื่อออกเป็นคนละเรื่องกัน เหมือนที่ครูถือศีลเคยเปรียบว่า ยืนตากแดดก็ร้อนและเหงื่อออกก็เป็นคนละเรื่องกับการเผาผลาญ

ความร้อนนี้เราต้องระบายออกไปเพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายให้คงที่ ซึ่งตรงนี้แหละที่ร่างกายเราระบายออกทางเหงื่อ เหมือนรถระบายออกทางหม้อน้ำและมีพัดลมเป่าความร้อนออกไป

ถ้าเราฝึกโยคะในที่เย็นร่างกายเราระบายความร้อนออกมา ก็จะไม่ค่อยมีเหงื่อให้เห็นเพราะเหงื่อระเหยหมด แต่ถ้าฝึกในที่ร้อนร่างกายก็ต้องเร่งระบายเหงื่อออกมามาก

ข้อดีของการฝึกในที่ร้อนก็อย่างที่บอกมาแล้วคือร่างกายจะยืดหยุ่นได้ดีกว่า และเหงื่อที่ขับออกมามากก็จะเป็นการระบายของเสียทางผิวหนังไปในตัวเหมือนซาวน่า

วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดอกไม้ทอด

ปัจจุบันคนไทยนิยมเอาดอกไม้สีสวยๆเหล่านี้มาชุปแป้งทอด จิ้มน้ำจิ้ม บางคนก็นำเอาดอกไม้ทอดไปยำ นับเป็นอีกหนึ่งเมนูที่กำลังได้รับความนิยม

แต่เพื่อความปลอดภัยก่อนจะรับประทาน ดอกไม้ทุกชนิดจะต้องแน่ใจ ว่าเป็นดอกไม้ที่รับประทานได้ เพราะดอกไม้บางชนิดมีพิษร้ายแรงมาก จึงควรระวังอย่ารับประทานดอกไม้ที่ไม่รู้จัก หรือไม่แน่ใจว่ารับประทานได้หรือไม่ วิธีสังเกตุที่ง่ายที่สุด ก็คือ มีแมลงเจาะกิน

สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมือง ไม่ควรเก็บดอกไม้ริมถนนมารับประทานเนื่องจาก ดอกไม้เหล่านี้ เป็นที่เก็บกักสารพิษต่างๆ เป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นสารตะกั่วสารปรอท สารเคมีตกค้าง

นอกจากนี้ไม่ควรไว้วางใจ ดอกไม้ที่ประดับมากับจานอาหารสุดสวย แม้จะมีภัตราคารและร้านอาหารหลายแห่งที่ประดับดอกไม้ไว้ในจานเพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานดอกไม้พร้อมกับอาหาร แต่กมีไม่น้อย ที่ประดับดอกไม้ไว้เพียงเพื่อสวยงามโดยไม่ได้ทำความสะอาด และไม่ปลอดภัยพอที่จะบริโภค

ทางที่ดีการสอบถามทางร้านให้แน่ใจเสียก่อนว่าดอกไม้นั้นสามารถรับประทานได้หรือไม่

ขั้นตอนการปรุงอาหารจากดอกไม้ก็สำคัญเช่นกัน ควรเลือกวิธีปรุงให้เหมาะสมกับดอกไม้แต่ละชนิดเพราะดอกไม้บางชนิดอาจเหมาะสำหรับการต้ม ถ้านำไปผัดหรือทอด อาจทำให้สีซีด หมดรสชาติไม่น่ารัยประทาน แต่กลับเป็นพิษร้ายแรง หากผู้บริโภคนำมาปรุงอย่างผิดวิธี หรือรับประทานแบบผิดๆจะเป็นพิษได้ เช่นดอกลีลาวดี

ตัวอย่างดอกไม้ที่นิยมมารับประทาน